วันที่ 20 ส.ค.2564   ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. เปิดการสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้ระดับชาติเรื่อง ถอดกับดักคอรัปชั่น และกล่าวปาฐกถา หัวข้อ กับดักคอรัปชั่นในอนาคต การถอดกับดักที่ทรงพลัง ตอนหนึ่ง ว่า การทุจริตคอร์รัปชั่น ถือเป็นปัจจัยเพิ่มความทุกข์ยากให้กับสังคม ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ปี 62 มีคำกล่าวหาเข้ามายังสำนักงานป.ป.ช. 10,382 เรื่อง มูลค่าความเสียหาย 236,000 กว่าล้านบาท และได้ส่งเรื่องไปให้หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง 3,488 เรื่อง มูลค่าความเสียหาย 1,966 ล้านบาทเศษ

ปี 63 คำกล่าวหาเข้ามายังสำนักงานป.ป.ช.ลดลงเหลือ 9,130 เรื่อง รับไว้ดำเนินการเอง 2,951 เรื่อง มูลค่าความเสียหาย 90,000 กว่าล้านบาท ส่งไปให้หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง 3,109 เรื่อง มูลค่าความเสียหาย 3,200 กว่าล้านบาท อ่านข่าว : ดารม่า แคมเปญ #พูดหยุดโกง #พูดไม่ทน คนดังที่ออกมาโพสต์ รับจ้าง หรือ อาสา

ปี 64 (ข้อมูลถึงวันที่26 กค.64) มีคำกล่าวหามาสำนักงานป.ป.ช. 6,153 เรื่อง รับไว้ดำเนินการเอง 1,963 เรื่องส่งไปหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง 1,792 เรื่อง ซึ่งจะเห็นว่าแม้ในภาวะวิกฤต โควิด-19 คำกล่าวหาการทุจริตยังมีจำนวนถึง 15,283 กรณี แสดงว่าการทุจริตไม่มีการลดราวาศอก หรืออ่อนข้อให้กับสถานการณ์ใด ๆ

“การทุจริตมักเกิดจากการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งเกิดขึ้นทั่วประเทศ เป็นแบบนิยมของคนที่แสวงหาประโยชน์การใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ในการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง อุทกภัย หรือการใช้งบประมาณในการฟื้นฟูเศรษฐกิจต่าง ๆ” พล.ต.อ.วัชรพล กล่าว

ประธาน ป.ป.ช. กล่าวอีกว่า การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระบบต้องมีคุณภาพและประสิทธิภาพ สร้างความโปร่งใส เราต้องเข้าใจพื้นฐานความสัมพันธ์ของมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมให้มีความแข็งแกร่ง ที่เราหวังว่าปัจเจกบุคคล ครอบครัว ชุมชน สังคม ยังคงความสำคัญซึ่งหวังให้มีความเข้มแข็งทรงพลัง เพื่อถอดกับดักคอรัปชั่นให้หมดสภาพ ซึ่งหมายถึงจิตใจความรู้สึกนึกคิดที่อ่อนแอถูกครอบงำได้โดยง่าย ด้วยกิเลสความโลภ เป็นผู้ขาดคุณธรรมในจิตใจ ไม่ละอาย และเกรงกลัวการทำผิด

ขาดอุดมการณ์ หรือแรงจูงใจในการประพฤติดีงาม มีค่านิยมที่ผิด เช่น ยกย่องคนมีเงิน คนที่เป็นเศรษฐี คนที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานสูง โดยไม่สนใจปัจจัยอื่น ยอมตนอยู่ใต้อิทธิพลของผู้ทุจริต และยังมีค่านิยมว่าการทุจริตเป็นวิถีชีวิตปกติธรรมดา เห็นคนฉวยโอกาสเอาเปรียบคนอื่นเป็นคนฉลาด โดย ป.ป.ช. ดำเนินการทั้งป้องกันและปราบปรามการทุจริตเชิงรุก ร่วมกับหลายภาคส่วน เพื่อให้ทุกองค์กรร่วมกันขับเคลื่อนดำเนินการป้องกันการทุจริตแบบมีส่วนร่วมในหลายมิติ

พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ป.ป.ช. ได้สร้างหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา เป็นเครื่องมือในการปรับวิธีคิดให้คนไทย เพื่อให้คิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม, ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต, สตรองจิตพอเพียงต้านทุจริต, พลเมืองและความรับผิดชอบต่อสังคม, การต้านทุจริตในสถานการณ์ดิจิทัลดีสรับชั่น, การพิทักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและธรณี, การพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติน้ำและน้ำบาดาล ซึ่งถูกนำไปใช้ในหลายหน่วยงาน

ทั้งนี้ เพื่อปรับวิธีคิดที่เป็นฐานของความซื่อสัตย์สุจริต มีจิตพอเพียงต้านทุจริต มีความอายในการกระทำทุจริต และไม่ทนต่อการทำทุจริตใดๆ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างยิ่งของจิตที่เข้มแข็งไม่ถูกครอบงำด้วยความโลภและกิเลส และในปีนี้มหาเถรสมาคม ช่วยดำเนินการปรับหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา ซึ่งกลไกทางการศึกษาจะขยายไปทั่วประเทศในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง

เพื่อปลูกฝังความเข้มแข็งในจิตใจของคนไทย ให้คิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนบุคคลและส่วนรวม อายและไม่ทนต่อการทุจริต สร้างความเข้มแข็งให้กับสังคม ชุมชน และครอบครัว สอดคล้องเป้าหมายของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ในการต่อต้านทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งจะเป็นกลไกทำให้กับดักคอรัปชั่นกลายเป็นกับดักที่ไม่มีอิทธิพล ไม่มีอิทธิฤทธิ์ และปรากฏเพียงแค่ในตำนานต่อไปเท่านั้น

Cr/ข่าวสด